วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ต้มยำกุ้ง

อาหารไทยนอกจากจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว อาหารไทยส่วนมากยังเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางยา ที่แฝงอยู่ในสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงอาหาร เป็นภูมิปัญญาอันสุดยอดของคุณทวดจริงๆ อย่างในเมนูต้มยำกุ้งนี้ มีข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก ซึ่งช่วยขับลม และช่วยให้เจริญอาหารหรือเมนูแกงเขียวหวานที่ใส่มะเขือพวง ซึ่งมะเขือพวงที่ใส่ลงไปที่หลายๆคนคิดว่าเป็นแค่ผักประดับนั้น และเขี่ยทิ้งกันเป็นประจำ ความจริงมะเขือพวงจะช่วยดูดซับไขมัน และช่วยย่อยอาหารด้วยค่ะเพราะแกงเขียวหวานเป็นแกงกะทิ ทีมีความมันและย่อยยาก คนไทยยุคเก่าๆ รุ่นคุณทวดนี่สุดยอดจริงๆเลยใช่มั้ยคะ

วัตถุดิบ/เครื่องปรุง ต้มยำกุ้ง

1.เราเลือกใช้กุ้งทะเลสดๆ แทนที่จะเป็นกุ้งก้ามกราม ที่มีมันกุ้งเยอะกว่า เพราะเราชอบรสชาติของกุ้งทะเลมากกว่าค่ะ วันนี้จึงเป็นกุ้งแชบ๊วย จัดการปอกเปลือกกุ้ง ให้เหลือแต่หัว ช่วงหนวดตัดสั้น เอาขี้กุ้งออก และเก็บหางกุ้งไว้ เพื่อให้ดูน่าทานค่ะ 
2.ใบมะกรูด ขาดไม่ได้เลยนะคะ สำหรับเมนูต้มยำของเรา
3.ผักชีสำหรับโรยหน้าให้สวยงาม และดูน่ารับประทานค่ะ
4.เห็ดฟาง น่าจะเข้ากันได้ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครไม่ค่อยชอบ และอยากจะเปลี่ยนเป็นเห็ดนางฟ้าก็ได้นะคะ แต่เรารู้สึกว่าเห็ดนางฟ้า เหมาะกับเมนูต้มข่ามากกว่าค่ะ
5.น้ำพริกเผา น้ำมะนาวที่ใส่พริกตำเอาไว้ พริกจะได้ไม่ดำค่ะ และวัตถุดิบสำหรับต้มยำน้ำข้นๆ คือนมสดค่ะ
6.และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย ได้แก่ข่าและตะไคร้ค่ะ

ขั้นตอน/วิธีทำ ต้มยำกุ้ง

เมื่อพร้อมแล้ว เราก็ลงมือกันเลยนะคะ ต้มน้ำใส่ข่าตะไคร้ รอให้เดือดซักครู่ เพื่อให้กลิ่นและตัวยาสมุนไพร ออกมาเยอะๆค่ะ
เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่กุ้งลงไปต้มแค่พอสุกค่ะ หลังจากใส่กุ้งลงไปในหม้อแล้ว อย่าเพิ่งคนนะคะ แค่เอาทัพพีกดกุ้งให้จมน้ำก็พอ เพื่อป้องกันความคาวค่ะจากนั้นตักกุ้งขึ้นพักไว้
ที่เราต้มกุ้งก่อนแล้วเอาขึ้นมาพักไว้ เพื่อไม่ให้กุ้งสุกเกินไปค่ะ เราอาจจะใส่เห็ดฟางลงไปต้มให้สุกก่อนแล้วตามด้วยกุ้งก็ได้นะคะ แต่ตอนปรุงรส เราต้องคนน้ำต้มยำให้เข้ากัน อาจทำให้หัวกุ้งหลุด หรือสุกเกินไป ทำให้เนื้อกุ้งแข็ง ทานไม่อร่อยค่ะจากนั้นนำเห็ดฟางลงไปต้มต่อจนสุกต้มจนเห็ดฟางสุกได้ที่นะคะจากนั้นเราตักน้ำต้มยำในหม้อ หรือน้ำสะอาดลงไปละลายน้ำพริกเผาก่อน เพื่อให้น้ำพริกเผาละลายได้ง่ายขึ้นในน้ำต้มยำค่ะเมื่อน้ำเดือดแล้วเราก็หรี่ไฟให้อ่อนลงแล้วใส่พริกลงไปก่อนค่ะ น้ำมะนาวไว้ใส่ทีหลังและปรุงรสชาติอีกสักนิดด้วยน้ำปลาดีจากนั้นปิดเตาค่ะ ใส่น้ำมะนาวที่เราแยกไว้ลงไป ชิมรสน้ำต้มยำให้จัดและเข้มข้นไว้ เพราะเราจะใส่นมสดด้วยค่ะ เป็นต้มยำน้ำข้น เทนมใส่ชามก่อน แล้วจึงตักต้มยำใส่ลงชามค่ะ
ตอนเราหัดทำอาหาร เมนูต้มยำกุ้งเป็นเมนูที่ทำแล้ว ไม่อร่อยเลยค่ะ เพราะกุ้งมักจะสุกเกินไปและแข็ง ด้วยความที่ยังไม่ชำนาญ จึงอยากเสนอวิธีให้กับคนที่เป็นพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ ได้ลองทำกันดู ยิ่งถ้าเราใช้ปลาหมึก ยิ่งต้องลวกปลาหมึกให้สุกพอดีๆค่ะ ไม่อย่างนั้นเราจะได้ทานหนังสติ๊กแทนแน่ๆ ^^
ที่มา http://www.kruamoomoo.com/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87-tom-yum-goong-recipe/

คิดตี้

คิดตี้

ชื่อ HELLO KITTY

วันเกิด : 1 พฤศจิกายน (1974)

สถานที่เกิด : ชานเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ที่อยู่ Kitty : อาศัยที่บ้านสีขาวหลังคาแดง ห่างจากตัวเมืองลอนดอน 20 กิโลเมตร ในเมืองที่ไม่มีใครทราบชื่อซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 ชีวิต คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองแห่งนี้ได้ ภายใน 20 นาทีโดยรถยนต์ หรือ 30 นาทีโดยรถเมล์

สัดส่วน : น้ำหนักเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 3 ผล สูงเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 5 ผล

กรุ๊ปเลือด : A (Negative) 

ราศี : พิจิก

สีที่ชอบ : แดง

อาหารโปรด : พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือคุณแม่ ฮ็อทเค้ก พุดดิ้งและของหวานทั้งหลาย เช่น ลูกกวาด เป็นต้น

วิชาโปรด : ดนตรีและภาษาอังกฤษ

สิ่งที่ชอบ : ของชิ้นเล็กๆน่ารักๆเหมือนตัวเธอนั่นเอง เธอสะสมดาวดวงเล็กๆ ปลาทองตัวน้อย เหรียญเงินและริบบิ้นมากมาย นอกจากนี้เธอยังชอบไปเที่ยวเล่นตามสาธารณะหรือในป่ากับเพื่อนๆอยู่เสมอ หากมีเวลาว่าง Kitty มักจะตรงดิ่งไปยังร้านลูกกวาดเสมอ เธอชอบลูกกวาดมากๆเลยล่ะ !

จุดเด่น : สิ่งที่ทำให้ทุกๆคนจดจำ Kitty ได้เสมอก็คือริบบิ้นสีแดงที่หูซ้าย ของเธอและปุยหางอันฟูฟ่องของเธอนั่นเอง

ชายในสเป็ค Kitty : ชอบผู้ชายที่ใจดีและเป็นมิตร รักครั้งแรกของ Kitty ก็คือ Dear Daniel และเมื่อ Dear Daniel ได้เดินทางไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่แอฟริกา Kitty ก็ได้หันมาคบกับ Tippy หมีหนุ่มเพื่อนร่วมชั้น

ความใฝ่ฝัน : นักเปียโนหรือกว

บุคลิก Kitty : เป็นแมวน้อยที่ร่าเริง อบอุ่นและใจดี เธอมีฝีมือในการอบคุ้กกี้ที่แสนอร่อยและชอบทาน พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือของคุณแม่ เพื่อนสนิทของ Kitty ก็คือน้องสาวฝาแฝดของเธอที่ชื่อว่า “Mimmy” นั่นเอง และตั้งแต่คุณพ่อของ Kitty ได้เข้าไปทำงานในนิวยอร์ค เธอจึงมีเท็ดดี้แบร์เป็นเพื่อนอีกมากมาย งานอดิเรกของ Kitty ก็คือการเดินทางท่องเที่ยว อ่านหนังสือ เล่นดนตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปียโน เธอชอบชิมคุ้กกี้ฝีมือการอบของ Mimmy น้องสาว และ Kitty ยังชอบเล่นกีฬาด้วยเช่นกัน เธอโปรดปราน การตีเทนนิส แต่สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็คือการพบปะ ผู้คนและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ก็เป็นเหมือนที่ Kitty บอกกับทุกคนนั่นแหล่ะว่า “ไม่มีวันที่เราจะรู้สึกว่าเรามีเพื่อนมากเกินไป”ด้วยเหตุนี้ นี่เอง Kitty จึงกลายเป็นสาวน้อย ที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโรงเรียน โรงเรียน โรงเรียนตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางที่มุ่งสู่ลอนดอนห่างจากบ้านของ Kitty 4 กิโลเมตร โรงเรียนของ Kitty นั้นนับได้ว่าเป็นโรงเรียนที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งซึ่งปกคลุมไป ด้วยต้นไม้และแวดล้อมสัตว์ป่าน้อยใหญ่ Kitty และ Mimmy เดินทางไปโรงเรียนด้วยรถเมล์ด้วยกันทุกเช้าซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง สามป้ายรถเมล์เท่านั้นคุณครูจะคอยทักทายกับพวกเธอทั้งสองอยู่ที่หน้าโรงเรียน ทุกวัน และเป็นที่แน่นอนว่า Kitty และ Mimmy คือสองสาวที่ป็อปปูลาร์ที่สุด ในโรงเรียน
ที่มา http://www.toon-land.com/Toon-land/home/NWIndexAction.do?frmPage=3&frmAdvertiseId=

โดเรม่อน

โดเรม่อน
การ์ตูนโดราเอมอน ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) เนื่องจากนักวาดการ์ตูนทั้ง ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้ลงโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาทั้งสองไว้ว่าจะมีตัวเอกที่ออกมาจากลิ้นชัก ในนิตยสารการ์ตูนฉบับต้อนรับปีใหม่ ที่จะมาแทนการ์ตูน เจ้าชายจอมเปิ่น[4] แต่ในความจริงแล้วทั้งสองยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งต้นฉบับก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก
ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ หนึ่งในนักวาดการ์ตูน ได้เผอิญเห็นแมวจรจัดที่มักแอบเข้ามาเล่นที่บ้านของตนเองเป็นประจำ เขามักจะชอบจับแมวตัวนี้มาหาหมัด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 4.00 น. ก็ยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องใหม่ ทำให้ฮิโรชิโมโหตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดเลยเถิดไปว่าโลกนี้น่าจะมีไทม์แมชชีน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต หลังจากนั้นฮิโรชิได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้เขาตกใจว่าตนเองเผลอหลับไป จึงรีบวิ่งลงจากบันไดบ้านไปสะดุดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นของลูกสาวที่ตกอยู่บนพื้น[4]
เหตุนี้เองทำให้ฮิโรชิเกิดไอเดียขึ้นโดยนำหน้าแมวจรจัดมาผสมกับตุ๊กตาญี่ปุ่น สร้างออกมาเป็นตัวละครหุ่นยนต์แมวจากอนาคตคอยช่วยเหลือเด็กชายที่แสนจะไม่ได้เรื่อง และตั้งชื่อว่า โดราเอมอน เป็นคำผสมระหว่าง "โดราเนโกะ" กับ "เอมอน" ในภาษาญี่ปุ่น โดราเนโกะนั้นแปลว่าแมวหลงทาง ส่วนคำว่า "เอมอน" เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนของประเทศญี่ปุ่น และได้เปิดตัวในปีเดียวกัน เริ่มตีพิมพ์ในนิตรยสารโยะอิโกะ, นิตรยสารโยชิเอ็ง และนิตยสารเพื่อการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 1 - 4 (เดือนมกราคม ค.ศ. 1970)[4]
การ์ตูนโดราเอมอน ลงตีพิมพ์พร้อมกันในนิตยสาร 6 ฉบับคือ นิตรยสารโยะอิโกะ, นิตรยสารโยชิเอ็ง, นิตรยสารโชงะกุอิชิเน็นเซ (นิตยสารเพื่อการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 1), นิตรยสารโชงะกุนิเน็นเซ (นิตยสารเพื่อการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 2), นิตยสารโชงะกุซังเน็นเซ (นิตยสารเพื่อการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 3) และนิตยสารโชงะกุโยเน็นเซ โดยมีทั้งหมด 1,344 ตอน[13] โดยเขียนให้เหมาะกับผู้อ่านแต่ละระดับอายุ ซึ่งการ์ตูนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก[4]
และในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2540 โดราเอมอนได้รับ รางวัลเท็ตซึกะ โอซามุ เป็นการ์ตูนดีเด่น[4][13]
โรตีสายไหม
 โรตีสายไหมเป็นขนมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและเป็นขนมของชาวไทยมุสลิมที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนถึงตอนนี้ทั้งชาวไทยแท้ หรือมีเชื้อสายมุสลิม และชาวต่างชาติ หากมีโอกาสมาไหว้พระที่นี่ก็จะหาโอกาสแวะซื้อโรตีสายไหมก่อนกลับ ด้วยแป้งหนานุ่ม สายไหมเส้นยาวสวย เมื่อนำมาห่อทานคู่กันทั้งหวาน นุ่ม หอม จนติดใจรสชาติไปตามๆ กัน
   แม่ชูศรีโรตีสายไหม มีสายไหม 7 อย่างคือ รสดั้งเดิม ใบเตย สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี่ ส้ม กล้วยหอม โกโก้ ส่วนแป้งมี 7 อย่างเช่นกัน คือ แป้งดั้งเดิม แป้งใบเตย แป้งโรยงา แป้งกล้วยหอม แป้งเผือก แป้งสตอเบอร์รี่ แป้งลูกตาล
          นอกจากโรตีสายไหมแล้วเรายังมี ทองม้วนสด ท้องม้วนกรอบ ที่เป็นสูตรของทางร้าน และยังมีบริการออกงานนอกสถานที่ จัดส่งทางรถทัวร์ รถไฟ และ EMS สำหรับลูกค้าที่ไม่อยากรอที่ร้าน เรามีบริการโทรสั่งจองล่วงหน้า เพื่อความสะดวกของลูกค้า และลดปัญหาเรื่องที่จอดรถค่ะ
โรตีสายไหม อาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ โรตีที่ร้านแป้งต้องร้อน เน้นความสดใหม่ สายไหมมีรสหวานมัน ทางร้านบอกว่าจะไม่ใส่สารกันบูด เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ใครมาอยุธยาลองหาซื้อไปฝากญาติพี่น้องกันได้นะคะ


ที่มา http://www.ryoiireview.com/article/6-roti-saimai-in-ayutthaya/

เกาะกูดจังหวัดตราด

เกาะกูดจังหวัดตราด

 เกาะกูด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในตราดรองจากเกาะช้างนอกจากนี้บน เกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น หาดทราย และน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ  เกาะกูดยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมี ภูเขาและที่ราบสันเขา ซึ่งเป็นต้นกำเนิด สายน้ำ ลำธาร ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง นอกจากนี้ บนเกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นหาดทราย และทะเลน้ำใสมากมาย ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อน ทั้งยังมี ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และแนวปะการังนานาชนิด
 เกาะกูด มีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม เต็มไปด้วยดงมะพร้าวเรียงรายอยู่ด้านตะวันตก เช่น อ่าวคลองยายกี๋ (มีน้ำตก 1 แห่ง) อ่าวตะเภา อ่าวคลองเจ้า (มีคลองและป่าชายเลนสมบูรณ์) อ่าวง่ามโข่ อ่าวคลองหิน พื้นที่ส่วน ใหญ่เป็นป่าเขา เชิงเขามีสวนมะพร้าวและป่าชายเลน หาดส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันตก หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด มีคลองเจ้าเป็นธารน้ำสายสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตบนเกาะ ซึ่งมีป่าชายเลนที่สวยงาม และสมบูรณ์ มาก
1. หาดบางเบ้า 
ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ใกล้กับอ่าวง่ามโข่ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร รูปโค้ง จนเกือบจะเป็นวงกลม เหมาะแก่การเล่นน้ำ บริเวณชายหาด อุดมสมบูรณ์ ไปด้วยสวนมะพร้าว ด้านหลังของชายหาดมีคลองเล็กๆ มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี หาดบางเบ้า เป็นหาดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกทะเลได้สวยงามที่สุดหาดหนึ่งบนเกาะกูด
2. อ่าวคลองเจ้า 
ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด มีชายหาดขาว ยาว ประมาณ 600 เมตร มีหาดทรายขาว สามารถลง เล่นน้ำได้ บริเวณชายหาด อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ต้นมะพร้าว มีสะพานไม้ยาว 100 อ่าวคลองเจ้า นักท่องเที่ยว สามารถไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้าได้ โดยนั่งเรือชมธรรมชาติสอง ฝั่งไปตามคลองเจ้า และต่อด้วยการเดินเท้าอีก เล็กน้อย เป็นน้ำตกที่นับว่าสวยที่สุดบนเกาะ นักท่องเที่ยวอาจจะ ได้ชมแสงน้อยๆ จากเหล่าหิ่งห้อยที่อยู่ตรง ป่าโกงกางนี้ ยามค่ำคืน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเล ได้สวยงาม แห่งหนึ่งได้
ที่มา http://paiduaykan.com/province/east/trat/kohkood.html

เครปเย็น

เครปเย็น เมนูเครปแป้งกรอบกัดทีหกเรี่ยราด ครั้นจะหักดิบไม่กินเครปเลยก็กลัวลงแดง คิดไปคิดมายังมีเมนูเครปเย็นแป้งนิ่มช่วยชีวิตได้นี่นา ลองเปลี่ยนสไตล์มากินเครปเย็นคงเหมาะ มาพร้อมวิธีทำแป้งเครป และวิธีทำไส้หลากสไตล์ ถ้าวันไหนเบื่อ ๆ ดัดแปลงทำเป็นเมนูเครปเค้กอีกเมนูก็ได้นะคะ 
1. เครปไส้ซอสผลไม้

     ใครไม่ชอบเครปเย็นสอดไส้ครีมสด ขอแนะนำเมนูเครปไส้ซอสผลไม้ สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine กัดลงไปเจอซอสชุ่มฉ่ำที่มีส่วนผสมของลูกพีชสีแดง สตรอว์เบอร์รี และแอปเปิลเขียว เสิร์ฟแบบม้วนดูเก๋ไม่ซ้ำที่ไหน

ส่วนผสม แป้งเครป (สำหรับ 3 ที่)


     • แป้งสาลีทำเค้ก 1+1/3 ถ้วย
     • ผงฟู 1/4 ช้อนชา
     • ไข่ไก่ 3 ฟอง
     • นมสด 1/2 ถ้วย
     • วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
     • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
     • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
     • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
     • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสม ซอสผลไม้

     • ลูกพีชสีแดง (ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1 ผล
     • สตรอว์เบอร์รีผ่า 4 ส่วน ประมาณ 5-6 ลูก
     • แอปเปิลเขียว (ปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็ก) 2 ลูก
     • เนยสดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลไอซิ่ง 1/4 ถ้วย
     • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
     • ผงอบเชย 1/8 ช้อนชา

วิธีทำเครปผลไม้

     • 1. ทำซอสผลไม้ โดยใส่ลูกพีช สตรอว์เบอร์รี แอปเปิลเขียว และเนยลงในกระทะ เติมน้ำเปล่าแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ รอจนผลไม้เริ่มนิ่ม ใส่น้ำตาลไอซิ่ง เกลือ และผงอบเชย คนให้เข้ากัน ยกลง เตรียมไว้
     • 2. ทำแป้งเครป โดยใส่แป้งสาลี ผงฟู ไข่ไก่ นมสด วิปปิ้งครีม น้ำเปล่า น้ำตาลทราย น้ำมันพืช เกลือป่น และกลิ่นวานิลลา ลงในโถปั่น ปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว เทใส่ภาชนะ
     • 3. ทาน้ำมันบาง ๆ ที่กระทะเทฟลอน ตั้งไฟอ่อนจนร้อน ตักส่วนผสมแป้งเครปใส่แล้วกรอกให้ทั่วกระทะ รอจนแป้งสุกเป็นสีเหลืองอ่อน กลับอีกด้านทอดจนสุก ตักใส่จานไว้ ทำจนหมดแป้ง
     • 4. ก่อนเสิร์ฟนำแผ่นแป้งเครปวางบนจาน ตักซอสผลไม้ใส่แล้วม้วนเรียงใส่จาน โรยน้ำตาลไอซิ่งอีกเล็กน้อย  

ที่มา http://cooking.kapook.com/view155722.html

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ เด็กหญิงกิ่งกานต์ บุญสังข์

ชิ่อเล่น เฟิร์น

อายุ15ปี

เรียนอยู่ที่โรงเรียนตราดสรรเสรฺฺิญวิทยาคม

น้ำหนัก45

ส่วนสูง160

คติ  เป็นคนตลกแต่ไม่ตลอด เป็นคนขี้หยอดแถมกอดยังอุ่น